วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

{MBAY12/2} จัดมหกรรมฟื้นฟูหลังน้ำท่วม1-2ธ.ค.

ชาวน้ำท่วมผู้ In train ทั่งหลาย อย่าลืมไปใช้บริการกันนะคับ

เออ แต่ว่าอ่านมาตั้งนานแระ มันจัดงานที่ไหนกันคับ เพ่น้อง

 

จัดมหกรรมฟื้นฟูหลังน้ำท่วม1-2ธ.ค.

พณ.จัดมหกรรมฟื้นฟูหลังน้ำท่วม 1-2 ธ.ค. ดึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการเปิดบูธให้คำปรึกษา ซ่อมบ้าน รถ เครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาพิเศษ ลด-แลก-แจก-แถม ไม่อั้น ส.อ.ท.จี้รัฐเร่งช่วยเอสเอ็มอีไทย

 

          รัฐบาลเร่งออกมาตรการผ่อนผันเพื่อลดภาระและช่วยเหลือชาวบ้านและผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จะเรียกประชุมผู้ประกอบการรวมกว่า 170 สมาคม เพื่อรับทราบถึงผลกระทบที่ได้รับจากอุทกภัย

 

       

              นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมและกรมส่งเสริมการส่งออกจะเรียกประชุมผู้ประกอบการรวมกว่า 170 สมาคม ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ โดยมีนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อวางแนวทางช่วยเหลือหลังน้ำท่วม รวมทั้งยังประสานสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการกู้สินเชื่อมาเพื่อการฟื้นฟูด้วย

       

              "ในระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม 2554 กรมพัฒนาธุรกิจฯ จะจัดงานมหกรรมฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจหลังน้ำท่วมขึ้น โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ เช่น ผู้ผลิต/จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ธุรกิจบริการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ธุรกิจซ่อมรถยนต์ ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นต้น มาร่วมเปิดบูธให้บริการประชาชนที่สนใจจะประกอบธุรกิจใหม่ๆ หรือต้องการซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ในราคาที่ถูกกว่าราคาทั่วไป เพราะผู้ประกอบธุรกิจที่จะมาร่วมงานเป็นธุรกิจที่อยู่ในเครือข่ายของกรมทั้งสิ้น" นายบรรยงค์กล่าว

   

   

    "ลด-แลก-แจก-แถม"ไม่อั้น

       

              อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ายืนยันด้วยว่า ผู้ประกอบการที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ได้ให้ความร่วมมือในการลดราคาค่าให้บริการต่างๆ ถูกเป็นพิเศษแก่ประชาชน การสมัครแฟรนไชส์ก็จะมีโปรโมชั่นต่างๆ เป็นพิเศษให้แก่ผู้ที่สนใจสมัครเป็นสมาชิกแต่ละแฟรนไชส์เช่นการลดอัตราค่าธรรมเนียมแรกเข้า การให้ผ่อนชำระอัตราแรกเข้า เป็นต้น ส่วนผู้ประกอบการก็จะได้โปรโมทธุรกิจของตนเองไปด้วย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าผลของน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้มีธุรกิจจดเลิกประกอบธุรกิจไปบ้าง ซึ่งต้องรอวิเคราะห์กันอีกครั้งหลังสถานการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไป

       

              ด้านนายศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่อนผันการแจ้งบัญชีหรือเอกสารประกอบการลงบัญชีที่สูญหายหรือเสียหาย ซึ่งตามกฎหมายต้องแจ้งภายใน 15 วัน ให้สามารถยื่นล่าช้าได้และสามารถใช้เป็นหลักฐานกรณีถูกเรียกตรวจสอบบัญชี รวมทั้งผ่อนผันการยื่นงบการเงินประจำปีของธุรกิจ การยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลที่ต้องยื่นภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ให้สามารถยื่นล่าช้าออกไปได้ตามความจำเป็นและสมควร

   

   

    จี้รัฐพุ่งเป้าช่วยเหลือเอสเอ็มอี

       

              นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ถูกน้ำท่วมขณะนี้ ต้องการให้พุ่งเป้าไปที่เอสเอ็มอี โดยรัฐบาลได้มีวงเงินสำหรับสินเชื่อเอสเอ็มอีหลายรายการและต้องช่วยให้ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมและนอกนิคม อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องการให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยค้ำประกันให้ 30% และถ้าเป็นลูกค้าชั้นดีของธนาคารก็อาจได้รับการพิจารณาสินเชื่อได้เร็ว

       

              "ส.อ.ท.ได้ส่งหนังสือถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพิจารณาผ่อนผันให้บริษัทแม่ในต่างประเทศ ส่งเงินมาให้ปล่อยกู้ให้บริษัทลูกในไทย หรือบริษัทที่เป็นซัพพลายเชน ซึ่งปกติจะใช้เวลาในการผ่อนผัน 3 เดือน แต่ ส.อ.ท.ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งพิจารณา เพื่อให้บริษัทแม่ในต่างประเทศส่งเงินมาปล่อยสินเชื่อได้ โดยบริษัทแม่ส่วนใหญ่ที่จะปล่อยกู้เป็นบริษัทที่ญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ 3-4 ราย" ประธานส.อ.ท.ระบุ

    

   

    นิคมฯโรจนะยันมั่นใจแจงญี่ปุ่น

   

       

              นายพากร วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การปล่อยเงินกู้ของบริษัทญี่ปุ่น คงจะปล่อยให้เฉพาะบริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยด้วยกันและเป็นซัพพลายเชน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของบริษัทที่ญี่ปุ่นที่จะสั่งซื้อวัตถุดิบจากพวกเดียวกันหรือทำธุรกิจร่วมกัน โดยเอสเอ็มอีไทยคงไม่ได้รับเงินกู้จากบริษัทญี่ปุ่น และจะทำให้เอสเอ็มอีญี่ปุ่นในไทยฟื้นตัวได้เร็วกว่าเอสเอ็มอีไทย เพราะได้เงินกู้ได้เร็วและดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งดอกเบี้ยอาจจะอยู่ที่ 1-2% 

       

              นายขจรศักดิ์ มหคุณวรรณ รองเลขาธิการ ส.อ.ท. กล่าวว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นายกิตติรัตน์ และนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู และสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) จะเดินทางไปญี่ปุ่นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 เพื่อชี้แจงแนวทางป้องกันน้ำท่วมให้แก่สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) ซึ่งภาคเอกชนไทยเชื่อว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักธุรกิจญี่ปุ่นได้ โดยบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) จะร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อชี้แจงการป้องกันน้ำท่วมของนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งสวนอุตสาหกรรมโรจนะมีโรงงานญี่ปุ่นเข้ามาตั้งจำนวนมาก จึงเชื่อว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้

   

   

    ห่วงโรงงานไอทีนอกนิคมถูกเมิน

       

   

              นายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ ประธานสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ จะเรียกประชุมสมาชิกผู้ประกอบการสมาคม ประกอบด้วยโรงงานทั้งเล็กและใหญ่ 47 ราย เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางฟื้นฟู และความช่วยเหลือที่เป็นไปได้ หลังจากเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อรับทราบข้อมูลแนวทางความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งการฟื้นฟูอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จำเป็นต้องทำพร้อมกันทั้งรายเล็กและรายใหญ่ รวมทั้งในส่วนที่อยู่ในนิคมและนอกนิคม เนื่องจากเป็นห่วงโซ่อุปทาน หรือซัพพลายเชน หากโรงงานชิ้นส่วนไม่สามารถเดินเครื่องผลิตส่งให้โรงงานขนาดใหญ่ได้ อุตสาหกรรมก็ไม่ฟื้นตัว

       

              "ภารกิจของรัฐมีสิ่งที่ต้องทำมาก แต่ขณะนี้สื่อมวลชนเสนอภาพความเสียหายของนิคมอุตสาหกรรมค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นที่รวมของโรงงานนับพันแห่งทำให้ความสนใจธุรกิจ หรือการฟื้นฟูผู้ประกอบการรายย่อยที่อยู่นอกพื้นที่นิคมไม่ได้รับความสนใจ" นายสัมพันธ์กล่าวและว่า รัฐจะสามารถผลักดันความช่วยเหลือทางการเงิน หรือซอฟต์โลนจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทุกระดับได้

   

   

    คาดการผลิตฟื้นไตรมาส2ปีหน้า

       

   

              นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า ธปท.ประเมินภาคการผลิตไทย คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีหน้าเป็นต้นไป ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังเชื่อว่าระดับการเติบโตไม่น่าจะต่ำกว่า 4% แต่คงต้องรอ กนง.ประเมินอีกครั้งในการประชุมวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

       

              ส่วนกรณีที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เสนอให้ ธปท.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงทันที 0.5% เพื่อแบ่งเบาภาระภาคธุรกิจ และช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจรวมถึงภาคการลงทุนให้ฟื้นตัวกลับมาได้นั้น เรื่องนี้คงต้องขึ้นกับความเห็นของ กนง.เป็นหลัก ซึ่ง กนง.คงพิจารณาเรื่องต่างๆ อย่างรอบคอบไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม เศรษฐกิจโลก แนวโน้มเงินเฟ้อ รวมไปถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

http://www.komchadluek.net/detail/20111118/115335/จัดมหกรรมฟื้นฟูหลังน้ำท่วม12ธ.ค..html

 

Best regards,

Wichaya Deesootjit

Cutting's Engineer

Cold side section

Hot&Cold department

Chonburi factory

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น