วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

{MBAY12/2} FW: [cs12hcu] ("Good things come in pair")



     



 



From: supanya_a@hotmail.com
Date: Mon, 2 Nov 2009 14:42:18 +0000
Subject:

ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน (กรุงเทพธุรกิจ)
โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช
 
หากคุณมั่นใจว่า
ผู้ป่วยเลือดจาง ต้องกินอาหารเสริมในกลุ่มธาตุเหล็กให้มาก
"คุณคิดผิด"
หมอกฤษดา แจกแจงคู่ยา "มิตร-ศัตรู" ให้เข้าใจกันชัดๆ
 
"Good things come in pair"
ดังวลีฝรั่งนี้ ที่บอกว่า
ของทุกอย่าง มีคู่แฝดอยู่เสมอ
อาจเป็นแฝดเหมือน หรือแฝดต่างก็ได้
ซึ่งก็พ้องกับทางพระที่ว่า
กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา
และโลกธรรมแปด ที่เล่าถึง คู่แห่งสัจธรรมในโลกนี้
มีสุข แล้วก็ มีทุกข์
มีสรรเสริญ ก็ย่อมมีนินทา
มีลาภ ก็ย่อมมีเสื่อมลาภ ได้ดังนี้ เป็นต้น
 
ดังนั้น ในเรื่องของโอสถรักษาโรค
ก็ย่อมต้องมีคู่แฝดของมัน
ที่ต้องมีทั้งแฝดที่ดี และแฝดที่ร้าย
คล้ายเทวา กับ ซาตาน ซึ่งเคยมีกรณีที่ถึงแก่ชีวิตมาแล้ว
ซึ่งโดยมาก มักเกิดจาก "ความไม่รู้"
ในฤทธิ์อันไพศาลของยา แต่ละเม็ด ที่กินอยู่
โดยเราจะค่อยมาดูกันไป ทีละแฝด ครับ
 
แฝดที่ดี
 
เสมือนคู่บุญ ยิ่งรู้จักกินให้เสริมกัน ก็จะยิ่งช่วยเสริมสุขภาพ
หรือทำการรักษาโรคให้ท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
และที่จริง ก็ควรกินคู่กันเสียด้วย
เพราะเรื่องของยา อาหารเสริมนี้
มีหลัก คือ ทำงานร่วมกัน
โดยกลุ่มที่ควรกินร่วมกัน ช่วยเสริมให้ดี
มีดังต่อไปนี้ ครับ
 
1. วิตามินซี กับ คอลลาเจน
จะช่วยกัน สร้างเนื้อเยื่อใหม่ ให้ใสปิ๊งปั๊ง ไม่เหี่ยว หย่อนย้อย
 
2. ธาตุเหล็ก กับ วิตามินซี
กินธาตุเหล็กให้ดี ดูดซึมเข้าไปใช้ได้
ไม่ใช่ กินเข้าไปอย่างไร ถ่ายออกมา หน้าตาเหมือนเดิมนั้น
ต้องกินคู่กัน อย่างเช่น
ถ้าจะกินเลือดหมู ให้ได้ ธาตุเหล็ก
ก็ควรกิน กับ ผัก ที่มีวิตามินซีสูง
เช่น ใบตำลึง ก็จะดีไม่น้อย ครับ
 
3. แคลเซียม กับ แมกนีเซียม
แคลเซียมจะดูดซึมได้ดี ต้องมี "ตัวช่วย" พามันเข้าไป
ได้แก่ แมกนีเซียม, วิตามินดี และวิตามินเค ด้วย
ซึ่งอยู่ในแสงแดด และผักเขียวจัด ตามลำดับ
 
4. วิตามินเอ, ซี และอี
พยายามกินไปด้วยกัน เป็นดี
หรือสูตรที่ดี คือ กินซี เพียงตัวเดียว
ส่วนเอ กับ อี นั้น
กินเอาจากผักคะน้า และถั่วลิสง สัก... วันละกำมือ
 
5. น้ำมันปลา (ไม่ใช่ น้ำมันตับปลา)
ขอให้เลือกชนิดที่มี ดีเอชเอ คู่กับ อีพีเอ
ยิ่งมากหน่อย ยิ่งดี
อย่างน้อย กินให้ได้ค่า ดีเอชเอ+อีพีเอ = 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน
โดยมีเคล็ดไว้ว่า
ถ้าอยากบำรุงสมอง ต้องเลือกชนิดที่มี ดีเอชเอ เด่น
แต่ถ้าจะให้บำรุงส่วนอื่นเป็นหลัก
เช่น ข้ออักเสบ ให้เลือกชนิดที่มี อีพีเอ สูง ด้วย ครับ
 
แฝดที่ร้าย
 
แฝดตัวนี้ ถือเป็น ระดับ "ตัวแม่" ที่น่ากลัวกว่าเยอะมาก ครับ
เพราะอาจทำให้เกิด เลือดออกในสมอง จนเป็นอัมพาต
หรือหัวใจวาย แน่นิ่งไปได้
จึงอยากชวนให้ท่านที่รัก
มาสนใจในยา ที่ไม่ควรกินร่วมกัน สักนิด ดังนี้ ครับ
 
1. น้ำมันปลา กับ แอสไพริน
คู่ร้าย อันดับแรก
โดยน้ำมันปลานี้ มีฤทธิ์ ช่วยให้เลือดใส ไม่หนืดเหนียว
ส่วนแอสไพริน ก็มีฤทธิ์เดียวกัน คือ
ช่วยให้ ไม่เกิดลิ่มเลือด จับแข็ง เป็นก้อนตัน
เมื่อกินคู่กัน เลยกลายเป็นคู่สังหาร
พาลให้เลือดไหลพรวดพราดไม่หยุด
แม้การกรอฟันเพียงนิด ก็อาจทำให้เลือดออกได้
ราวกับผ่าตัดใหญ่แล้ว ครับ
 
2. วิตามินอี และอีฟนิ่งพริมโรส
มีคนไข้ ที่อยากผิวสวย มาหา พร้อมบอกว่า
มีคนแนะ ให้กินวิตามินอี
แต่บ้าง ก็ให้เลือก เป็น อีฟนิ่งพริมโรสแทน จะเลือกอย่างไรดี
จึงได้บอกไป ให้เลือกอย่างหนึ่งก็พอ
เพราะล้วนแต่มีวิตามินอีทั้งนั้น
ซึ่งถ้าได้มากไป อาจทำให้เกิดหัวใจพิบัติ แทน
 
3. แคลเซียมเสริม กับ แคลเซียมสด
ถ้าท่านกิน งาดำ ได้ วันละ 4 ช้อนโต๊ะ
หรือเต้าหู้ขาวแข็ง วันละ 3 ขีด
ก็จะได้แคลเซียม ราว 1,000 มิลลิกรัม อยู่แล้ว
ซึ่งถ้า ไปหา แคลเซียมเม็ด มากิน เติมอีก
จะทำให้ แคลเซียมเกิน และไปจับกับหลอดเลือด
ทำให้ ตีบแข็ง ได้
 
4. กาแฟ กับ แคลเซียม
ขอให้เลี่ยง กินแคลเซียม ร่วมกับ กาแฟ
เพราะกาแฟ จะไปยับยั้ง การดูดซึมแคลเซียม
นอกจากนั้น ยังไปดึง แคลเซียม ออกจากกระดูก อีกด้วย
 
5. ธาตุเหล็ก กับ เลือดจางธาลัสซีเมีย
เป็นไม้เบื่อไม้เมากันทีเดียว
ขอให้ลืมความเชื่อที่ว่า
ถ้าเลือดจาง ต้องกินธาตุเหล็ก ไม่เสมอไป ครับ
หากท่านเป็นเลือดจางชนิดธาลัสซีเมีย
แล้วไปกินธาตุเหล็กเสริม
จะเท่ากับ เติมยาพิษ ให้กับหัวใจ และตับ ตัวเอง ครับ
 
ทั้ง แฝดดี แฝดร้ายนี้
ที่จริง มีอีกมาก
ซึ่งผมได้เคยเขียนไว้ในหนังสือแล้ว
และก็ตั้งใจจะเขียนไว้เรื่อยๆ เป็นตอนต่อไป ในคอลัมน์นี้
แต่สำหรับที่เลือกมาให้เห็นนั้น
เป็นตัวอย่างที่พบบ่อยหน่อย ครับ
และท่านจำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
 
เมื่อถึงตอนนี้
ขอให้ท่านหยิบยาออกมา สังคายนา แยกวางเป็นชนิดไปบนโต๊ะ
แล้วจัดเป็นกลุ่มไว้ว่า กลุ่มใดรักษาโรคไหน
แล้วบางที จะเกิดพุทธิปัญญาทีเดียว ว่า
กินยามากเกินความจำเป็นไปเพียงใด
แต่นั่น ก็ยังไม่ร้ายเท่า
กินยาที่ดันไปเสริมฤทธิ์กัน ให้เป็นพิษเข้าไป เสียอีก
 
ดังนั้น ท่านจะเห็นว่า
การกินยานั้น มีข้อหยุมหยิมอยู่มาก
เมื่อเทียบกับ กินอาหารธรรมชาติ
ที่โอกาสเกิดการผสมกันเป็นพิษน้อย
เพราะมีส่วนประกอบสำคัญ
อยู่ในปริมาณที่ไม่เข้มข้นมากเท่ายาเคมี
แต่อย่างไรก็ดี คงต้องยึดหลักที่ว่า
หูไวตาไว ถ้ารู้สึกว่า "ไม่ใช่" แล้ว
ก็ให้รีบเร่งบอก อย่าปล่อยให้เลยตามเลยไว้นานเลย ครับ 
__._,_.___
[cs12hcu] FW: ÂÒ·ÕèäÁè¤ÇáԹ¤Ùè¡Ñ¹ ("Good things come in pair")

 
Recent Activity
    Visit Your Group
    Y! Messenger
    Group get-together
    Host a free online
    conference on IM.
    Group Charity
    City Year
    Young people who
    change the world
    Check out the
    Y! Groups blog
    Stay up to speed
    on all things Groups!
    .

    __,_._,___


    Windows Live Hotmail: Your friends can get your Facebook updates, right from Hotmail®.
    --~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
    คุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "MBAY12/2"
    หากต้องการโพสต์ถึงกลุ่มนี้ ส่งอีเมลไปที่: mbay12@googlegroups.com มันจะส่งต่อถึงเพื่อนๆทุกคนโดยอัตโนมัติ
    หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิก: mbay12+unsubscribe@googlegroups.com
    Group: http://groups.google.co.th/group/mbay12
    BLOG: http://gscy12.blogspot.com/
    -~----------~----~----~----~------~----~------~--~---

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น