วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553

{MBAY12/2} FW: โอ๊ค เอม อุ๊งอิ๊ง หล านรัก (จากชัยวัฒน์ ส ุรวิชัย)


 

From: pattarakorn@jibuhin.co.th
To: tanom@exedy.co.th; juimuang@hotmail.com; mongkol-c9@hotmail.com; anantakul_ting@hotmail.com; sawatdee508@hotmail.com; production2-bk@cfmholdings.com; charin521@gmail.com; nikorn@jibuhin.co.th; na_pmat@yahoo.com; kritsada@jibuhin.co.th; boysenberry_kit@hotmail.com; kanakorn@toshibamachineth.co.th; wongsanga@yahoo.com; bigjew@windowslive.com; jitpittayanupap@hotmail.com; dearsmooth@gmail.com; chanathun@gmail.com; kitisak_aaa@hotmail.co.th; phachpichatpt@hotmail.com; panuwan@mclogi.net; chatchawin@jibuhin.co.th; sommai@jibuhin.co.th; pansa@jibuhin.co.th; phanom@jibuhin.co.th; phatthanasan@jibuhin.co.th; watcharachai@jibuhin.co.th; warintorn@jibuhin.co.th; kitti@jibuhin.co.th; somdej@jibuhin.co.th; sontana@jibuhin.co.th; jakkarin@jibuhin.co.th; teangsak@jibuhin.co.th; chunkamol@jibuhin.co.th; niwat@jibuhin.co.th; kesiyarin@jibuhin.co.th; somluck@jibuhin.co.th; auy_pitsinee@hotmail.com; rattaporn@jibuhin.co.th; yaowalux_enjoy@hotmail.com
CC: boonchana@jibuhin.co.th; account@jibuhin.co.th; mongkol@jibuhin.co.th; kittichart@jibuhin.co.th
Subject: Fw: โอ๊ค เอม อุ๊งอิ๊ง หล านรัก (จากชัยวัฒน์ ส ุรวิชัย)
Date: Thu, 8 Apr 2010 13:02:55 +0700

 




 
โอ๊ค เอม อุ๊งอิ๊ง หลานรัก (จากชัยวัฒน์ สุรวิชัย)
sptthai นานาทัศนะ - ทัศนะจากพี่น้องประชาชนไทย
อีเมลพิมพ์PDF


เขียน ที่นอกคุก

โอ๊ค เอม อุ๊งอิ๊ง หลานรัก


ก่อนอื่นลุงต้องกล่าวขอโทษหลานๆ ด้วย

     

สาเหตุ ที่ลุงต้องเขียนจดหมายมาถึงหลาน ทั้งๆ ที่เราอาจจะไม่รู้จักกัน แต่พ่อของหลานรู้จักลุงดี และเราพูดกันตรงๆ มาตลอด ไม่มี
ขี้จุ๊กัน ลุง เป็นฝ่ายให้กำลังใจ ในยามที่คุณพ่อของหลานท้อแท้ เพราะตั้งใจ ทุ่มเท แต่ผลไม่ได้ดั่งใจ ...ในช่วงที่คุณพ่อได้มาอาศัย พรรคพลังธรรม เป็นบันไดทางลัด จนสามารถไต่เต้าเป็น นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย



       
คือ วันที่
26 ก.พ.2553 ที่คุณพ่อแต่งชุดดำไว้ทุกข์ให้กับการกระทำของตนเองต่อประเทศไทยที่มีบุญคุณ อย่างยิ่งต่อเราคนไทย และตอนท้ายกล่าวว่า ขอโทษอีกครั้งครับลูกๆ คุณหญิง ผมเสียใจ ผมดันทุรังเข้าการเมืองประโยคนี้สำคัญมาก ที่ลุงจำต้องเขียนจดหมายมาถึงหลาน เพื่อให้ความจริง สร้างสติปัญญาให้หลาน ให้ เคารพความจริง มากกว่าความเท็จที่หลอกลวงและ  ให้รักและตอบแทนบุญคุณประเทศชาติ ซึ่งเป็นเรื่องของส่วนรวมมากกว่าเรื่องนิยายส่วนตัว และช่วยให้หลานและคุณแม่ ช่วยให้สติ เตือน คุณพ่อไม่ให้ใช้อารมณ์ โลภะ โทสะ โมหะ หลอกล่อ เอา ความไม่รู้จับประชาชนมาเป็นตัวประกัน. เพื่อสนองตัณหาของคุณพ่อ


       
หลานๆ อย่าเพิ่งโกรธลุง
เพราะถ้าใช้อารมณ์แบบคุณพ่อ อาจจะไม่เข้าใจความปรารถนาดีของลุง อาจจะไม่พอใจ ด่าต่อว่า
ลุงว่า มาซ้ำเติมความทุกข์ ความไม่ เป็นธรรมที่คุณพ่อได้รับจากศาล, แต่ หากหลานมีสติ ใช้ปัญญาพิจารณา หลานจะรู้ความจริง แล้วจะสามารถช่วย คุณพ่อคนที่เคยดีกลับมาเป็นคนดีได้ใหม่
     

ความจริง หลานๆ จะสามารถเข้าใจความจริงทั้งหมดได้ จากคนใกล้ชิดที่สุดของหลาน
คือ
คุณแม่ซึ่งรู้ทุกอย่างเกือบหมด ทุกการกระทำและพฤติกรรมของคุณพ่อ และอีกคน
คือ
คุณพ่อที่รู้ทุกอย่างหมด ทุกการกระทำ และพฤติกรรมของตนเอง รวมทั้งเรื่องที่ทุก
คนที่เป็นภรรยาไม่ชอบที่สุด



 

เรื่องที่ลุงจะให้สติหลานๆ เป็นเรื่องที่ลุง
เป็น Primary” มิใช่ Secondary คือ:-รับรู้โดยตรง
           

พื้นฐานของคุณพ่อ เป็นคนดี อยากทำดี ตั้งใจจะทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง หลังจากประสบความสำเร็จในทางธุรกิจ

     
ผมพอแล้วครับ ประเทศให้ผมมากแล้ว (ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ) ต่อไปนี้ ผมจะขอตอบแทนคุณแผ่นดิน ... หากผมทำให้ประเทศเจริญขึ้น ผมก็ได้ทางอ้อมอยู่แล้ว (จากหุ้นที่เพิ่มขึ้น) ขอให้...มาช่วยกันนะครับ
     

คำกล่าวที่เหมือน กับการเปิดเทปพูด ในการไปพูดชักชวนคนมาร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย

     

แต่ มาฟังต่อ...

     
หากไม่ มี บิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร) ผมก็คงไม่มีวันนี้ (ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ)
     

หลานคงรู้ว่าเป็นเรื่องการให้สัมปทาน... ซึ่งคุณพ่อต้องให้อะไรจึงได้มา แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมและหลักธรรมาภิบาล ซึ่งนักธุรกิจที่ดีและกล่าวอวดตัวว่าดี "ไม่ควรทำ

     

ข้อ ดีของคุณพ่อ คือ ความตรงไปตรงมา เปิดเผย (เก็บความลับไม่อยู่) ไม่ว่าเรื่องถูกหรือเรื่องผิด แต่ข้ออ่อนหรืออาจจะเป็นข้อดี คือ คนใกล้ชิดจะรู้ว่าคุณพ่อคิดและทำอะไร ไม่ว่าเรื่องดีหรือไม่ดี (คุณสมบัติข้อนี้ คนพลังธรรมจะรู้ดี เพราะประสบพบเห็นด้วยตัวเองบ่อยๆ)

     

คุณพ่อเป็นนักธุรกิจจริงๆ เต็มตัว คิดและทำทุกเรื่องในเชิงธุรกิจ ไม่มีเรื่องของบุญคุณ ความดี

 

     
*
หลานคงรู้จัก ผู้ใหญ่ที่คุณพ่อเรียกว่า คุณอาซึ่งพ่อชอบจะพูดให้ทุกคนทราบว่า พ่อเป็นคนที่มีความกตัญญูรู้คุณคนถ้าไม่มีคุณอา... ผมก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จทางการเมือง
คุณพ่อในช่วงเป็นนายตำรวจ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ติดตาม เดินหิ้วกระเป๋าให้, แต่ต่อมาคุณอา... เป็นคนไม่รู้จักพอ ผมตอบแทนจนเกินพอแล้ว ยังเอาผมไปอ้างไปพูดว่ามีบุญคุณต่อผม ไม่รู้จักจบจักสิ้น เป็นคนใช้ไม่ได้” (นักการเมืองรุ่นเก๋า เพื่อนสนิทของพี่ ไขแสง สุกใส, คุณพ่อของนักการเมืองน้ำดีคนหนึ่ง เป็นคนเล่าให้ฟัง)
     

ในเรื่อง เฉพาะของผู้ชายที่มีกิเลสหนา คนใกล้ชิดที่สุดของหลานๆ และคุณพ่อ
, คงกลุ้มใจมาก ถึงนำเรื่องไปขอคำแนะนำจากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ (นะจ๊ะ) ซึ่งจากคำตอบ ทำให้ คนนั้นเข้ามาจัดการในเชิงกฎหมาย...

คุณ พ่อที่ชอบกล่าวคำ
ขอโทษบ่อยๆ ต่อลูก และคุณหญิง เคยเล่าเรื่องต่างๆ เหล่านี้ให้หลานๆ ฟังหรือเปล่า
     

คนพลังธรรมในช่วงที่ ต้องเสียสละตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ และหัวหน้าพรรคให้คุณพ่อ
(คนดี:คนเด่น:คนดัง:ในทัศนะของผู้สถาปนาพรรค) ได้ฟังคำขอโทษบ่อยๆ
     

ในครั้งแรกก็
ขลังและศักดิ์สิทธิ์น่าเชื่อถือ” < /B>แต่ตอนท้ายๆได้สรุปว่า เป็นคำที่นักเลือกตั้งชอบใช้กล่าวอ้าง แต่ไม่ได้มีจิตสำนึกอย่างแท้จริง
 



     

ยังไม่จบ มีอีกแยะ หลานๆ อย่าใช้อารมณ์กับลุงน่ะ ฟังต่อไป

     

หาก หลานเป็นเจ้าของบริษัท มีพนักงานเก่าแก่ เป็นคนดี ซื่อสัตย์ และทำงานให้บริษัทอย่างดี และมีเพื่อนสนิทของหลาน ตั้งบริษัททำงานอย่างเดียวกัน มาเป็นคู่แข่ง และทำทุกรูปแบบเพื่อให้ชนะการประมูลหลานจะเข้าข้างใคร
?
     

ลุงรู้ว่า
หลาน ซึ่งเป็นคนดีคงจะเลือกพนักงานของหลาน!
     

แต่หลานรู้ไหมว่า มีคนที่หลานรู้จักดี และมีบุญคุณ สูงสุดต่อหลาน กลับไปเข้าข้างเพื่อนสนิท ทำให้คนเก่าแก่คนนั้นไม่พอใจ และลาออกจากบริษัทไป

     
หลานลอง ถามคุณพ่อดูซิว่า รู้จัก คนนั้นไหม?
     
เขาเป็นหัว หน้าพรรค เหตุเกิดในการเลือกตั้งใหญ่ จังหวัดที่เกิดเหตุอัปยศนั้นคือ กำแพงเพชร
     

ก่อนนั้น เขามอบให้
คุณจรัส” (ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ลาว) เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการเลือกตั้งของพรรคภาคเหนือ พร้อมคำสำทับที่หนักแน่นว่าพี่จรัส ผมทุ่มไม่อั้น พี่จัดการเลย เพื่อศักดิ์ศรีของคนเหนือ
     

ผู้สมัครคนนั้นเป็นคนพอมี ประกอบกับชื่อเสียงของพรรคพลังธรรม ทำให้ได้รับการตอบรับอย่างดี จนคะแนนนำ อดีตเจ้าของพื้นที่ที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา แต่แล้ว เกิดเรื่องบัดซบเลวทรามอย่างที่ไม่มีหัวหน้าพรรคการเมืองใดกล้าทำ เขาสั่งตัดการสนับสนุนผู้สมัครของพรรค ซึ่งโกรธมาก ทำการประท้วง เผาป้าย และผู้สมัครคนอื่นๆ ก็ถูกตัดงบลง ทำให้คุณจรัส เศร้า และเสียหายมาก ในฐานะผู้รับผิดชอบ และเป็นผู้รับหน้า

     

ลุงได้จังหวะ คุยกับ
เขาคนนั้น ทำไมหัวหน้าทำอย่างนี้ ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ไม่ควรทำ
     

หัวหน้ามีสีหน้าไม่พอใจ แต่พอตั้งสติได้ ก็พูดออกมาว่า
พี่ชัยวัฒน์  ผมเคารพพี่ ซึ่งเป็นคนมีอุดมการณ์  แต่พี่ยังเป็นละอ่อนทางการเมือง งานการเมืองนั้น บางครั้งเรื่องนอกพรรคสำคัญกว่าเรื่องในพรรค ต่อไปพี่ชัยวัฒน์จะเรียนรู้เอง
 

หลานรู้จักนิสัยที่แท้จริงหรือ สันดานของหัวหน้าพรรคพลังธรรมที่ชื่อ
ทักษิณไหม
     

ลุง คงไม่เล่าต่ออีก เพราะ
หลานเป็นคนดี ... แต่หลานยังเป็นละอ่อนทางการเมืองจะเสียความรู้สึก รับไม่ได้  แต่ต่อไป หลานจะเรียนรู้เอง
แต่ลุง ขอจบด้วยเรื่องสุดท้าย ถึงความฉลาดยิ่งของพ่อ ที่เซียนการเมืองเรียกว่าพี่
     

ทำไมพ่อจึงลา ออกจากหัวหน้าพรรคพลังธรรม

 

     

ลุงยกย่องพ่อที่มีจิตวิญญาณของนักธุรกิจ การตลาด ยุคอัศวินโลกที่สามที่รู้จริง
ก่อนจะทำอะไร จะหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่สุดๆ ทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล ทีมวิจัยทำโพลล์ หรือแม้แต่ต้องจ่าย...
     

หัวหน้า ทักษิณคุยกับพรรคพลังธรรมบางคนว่า
พรรคพลังธรรม เป็นพรรคที่ดีที่สุด เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ แต่การไม่ซื้อสิทธิขายเสียง การไม่จาบจ้วงกล่าวเท็จ มันไม่สอดคล้องกับสังคมไทย ชาวบ้านยังไม่ฉลาดพอ... ผมขอให้เว้นวรรควิธีการของพลังธรรมชั่วคราว ผมจะเป็นคนจ่ายเองทั้งหมดสำหรับการเลือกตั้ง และหลังจากได้เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจจัดการได้แล้ว ค่อยมาใช้วิธีการแบบพลังธรรม
แต่ พลตรีจำลอง และเสียงส่วนมากไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำไม่ถูกต้อง และวิธีการที่ไม่ถูกต้องไม่สามารถนำมาซึ่งหลักการที่ถูกต้องได้< /FONT>ลุงเห็นด้วยกับความคิดของหัวหน้าทักษิณ ในการวิเคราะห์สังคมและการเลือกตั้ง แต่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหา วิธีคิดของหัวหน้าทักษิณ เป็นวิธีคิดแบบนักธุรกิจเก็งกำไร เป็นนักเลือกตั้ง มิใช่นักปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคม และรัฐบุรุษ
     

คน ส่วนใหญ่ไม่รู้ความจริงในเรื่องนี้ รู้แต่เพียงว่า หัวหน้าพรรคพลังธรรมคนนี้ สร้างความอัปยศอดสูแก่ชาวพลังธรรม นักการเมือง และประชาชนไทย ที่คนซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค เป็นคนที่คนทั้งพรรคฝากความหวังให้ กลับทิ้งพรรคในขณะที่มีการเลือกตั้ง เสมือน
แม่ทัพที่ทิ้งทหารยามศึก
     

แต่คนไทยลืมง่าย ถูกหลอกง่าย

     

คุณพ่อเข้าใจความจริงที่ น่าอับอายนี้ข องคนไทยดี และก็ได้นำมาใช้อย่างได้ผล แม้กระทั่งเมียและลูก

     

งานวิจัยหัวเรื่องที่มีคุณค่าที่สุดของหลานๆ คือ:-

คนที่ไม่มีธรรมาภิบาล จะเป็นนักธุรกิจที่ดีได้ไหม
คนที่ไม่เคยต่อสู้ - เพื่อประชาธิปไตย จะมาเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยได้ไหม
เขาเป็นเพียงหัวหน้า ครอบครัว เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีได้
แต่เขาไม่สามารถเป็นนักการ เมืองที่ดี เป็นนักธุรกิจที่ดี และสำคัญที่สุดไม่สามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เป็นความหวังของประชาชน ได้

     

หลานๆ จะเป็นผู้เดียวที่จะทำหน้าที่เป็นลูกกตัญญูต่อพ่อแม่ และลูกที่ดีของแผ่นดิน
โดยขอให้พ่อยอมรับความเป็นจริงมีสำนึกในความผิดต่อชาติ ต่อแผ่นดิน ต่อประชาชน
     

ยอมมารับโทษชดใช้ กรรมที่ทำไว้

     

นี่คือจิตใจที่กล้าหาญ เสียสละ คิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว! ที่หลานควรมี

     

ลุงเชื่อมั่นใน ตัวหลาน หลานทำได้ เพราะหลานเป็นคนเก่ง คนฉลาด อายุยังน้อย ยังสามารถหาเงินได้คนละหลายหมื่นล้าน และพ่อเป็นคนรักครอบครัว โดยเฉพาะอุ๊งอิ๊ง ที่หน้าตาเหมือนพ่อราวกับถอดมา และขอให้แม่ร่วมมือด้วย

     

หากหลานทำได้ จะเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เป็นลูกกตัญญู

     

อย่า ให้พ่อต้องหลงผิด ทำความเลว ทำร้ายประชาชน และทำลายประเทศชาติไปมากกว่านี้
ดึง พ่อออกมาจาก โลภะ โทสะ โมหะ
 อวิชชา และมิจฉาทิฐิ  
เอาพ่อออกห่างพวก บริวารห้อมล้อม ที่มีแต่ยกย่องเชิดชู แต่ขาดความจริงใจ เอาแต่ผลประโยชน์ ทำให้พ่อขาดข้อมูลที่เป็นจริง และหลงทำผิด
   
พ่อเอาจากสังคม โกงแผ่นดินมามากมายมหาศาล ตลอดชีวิต ทั้งการทำธุรกิจสัมปทาน และทำการเมืองสามานย์ มูลค่าที่นักธุรกิจใหญ่และนักวิชาการประเมินว่าคงมากกว่า 2 แสนล้าน
     

ซึ่งก็น่าจะจริง เพราะ
มีเงินไปลงทุนต่างประเทศ และขาดทุน
1
เงิน ไปให้พรรค และเสื้อแดงมากมาย
1
เงินเหลืออยู่ที่ตัว + เมีย +ลูกอีกมาก
1
เงิน ที่ถูกยึดไป
4.6 หมื่นล้าน แค่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของเงินที่โกงชาติไป
     

คิดดูแล้ว
มิใช่ ศาล + คตส. + ป.ป.ช.+ไม่ให้ความเป็นธรรม” (ตามที่พ่อกล่าว)
แต่กลับกลายเป็นว่า
พ่อ ไม่ได้ให้ความเป็นธรรม แก่ความยุติธรรมมากกว่า
เงินที่ เหลือยังจะทำให้ หลาน พ่อ แม่ ใช้ชีวิตอย่างเศรษฐีได้อีกหลายชาติ
แต่ ถ้ารักเมืองไทยจริง อย่างที่พ่อของหลานมักจะพูดติดปาก ก็กลับมาเป็นเศรษฐีใหญ่ในคุ กประเทศไทยได้

เพียงไม่ถึง 20 ปี หมั่นทำตัวดีๆ เป็นนักโทษชั้นดี ก็จะได้ลดโทษอีก
     

สุดท้าย ลุงหวังในตัวหลานที่จะเป็นลูกกตัญญู ช่วยชี้ทางธรรมให้แก่คุณพ่อ
ผู้หลงผิดให้กลับเนื้อกลับตัว  มาเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี เป็นประชาชนที่ดีอีกครั้งหนึ่ง
     

ด้วย รักและปรารถนาดีอย่างแท้จริง



กัลยาณมิตร ชัยวัฒน์ สุรวิชัย

มีนาคม
2553
หมายเหตุบล๊อก เกอร์ ชัยวัฒน์ สุรวิชัย คือ 1 ใน 13 นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกจับร่วมกับธีรยุทธ บุญมี กรณี 14 ตุลาคม 2516
http://www.oknation.net/blog/pornsri5201/2010/03/13/entry-1
 






อีเมลของคุณและบริการอื่นๆ ที่พร้อมใช้งาน รับ Windows Live Hotmail ฟรี ลงทะเบียนเดี๋ยวนี้

Hotmail: บริการอีเมลฟรี ที่เชื่อถือได้ และสมบูรณ์พร้อม รับทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น